การเลือกซื้ออาหารสุนัขในปัจจุบันนั้นอาจจะยุ่งยากเล็กน้อย เพราะมีมากมายหลายยี่ห้อ หลายสูตร ซึ่งผู้เลี้ยงจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสุนัขของตน โดยเริ่มต้นต้องดูจากอายุของน้องสุนัขเป็นหลัก เพื่อจะได้ทราบว่าสุนัขของผู้เลี้ยงนั้นอยู่ในวัยใด ซึ่งโดยทั่วไปจะกำหนดไว้ดังนี้ สุนัขอายุตั้งแต่แรกเกิด – 12 เดือน เรียกว่าลูกสุนัข สุนัขอายุตั้งแต่ 12 เดือน – 6 ปี เรียกว่าสุนัขโต สุนัขอายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป เรียกว่าสุนัขสูงอายุหรือสุนัขแก่ ซึ่งการกำหนดช่วงวัยหรืออายุของสุนัข ก็เพื่อจะได้เลี้ยงได้อย่างถูกต้องและ เพราะสุนัขในแต่ละช่วงวัย จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายทั้งภายในและภายนอกที่ต่างกัน นอกจากนี้ความต้องการสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ ในสุนัขแต่ละวัยก็ยังต่างกันอีกด้วย ดังนั้นการเลือกซื้ออาหารให้สุนัขของท่านจึงต้องคำนึงถึงเรื่องอายุสุนัขเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ ก็ต้องคำนึงถึงสายพันธุ์ด้วย เพราะสุนัขมีทั้งพันธุ์เล็ก กลาง และใหญ่ ความต้องการสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายก็ต่างกัน การเลือกซื้ออาหารก็ย่อมต้องแตกต่างกันไป อย่างน้อยก็ให้ดูที่ขนาดเม็ดของอาหารก็พอได้ เช่นสุนัขพันธุ์เล็ก ซึ่งมีปากเล็ก ฟันซี่เล็กก็ต้องเหมาะกับอาหารเม็ดเล็ก ๆ ส่วนเจ้าตัวโต ๆ หรือสายพันธุ์ใหญ่ ๆ อาจไม่ต้องเลือกมากเพราะอาหารเม็ดเล็กมันก็กินได้ และการให้อาหารผิดสูตรหรือให้อาหารไม่ตรงกับวัยของสุนัข ก็อาจทำให้การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างไม่สมบรูณ์ ซึ่งสุนัขในแต่ละช่วงวัยจะมีการเจริญเติบโตที่ต่างกัน ดังนั้นอาหารเท่านั้นที่จะทำให้การเจริญเติบโตเป็นได้อย่างธรรมชาติ การให้อาหารที่เหมาะสมกับวัยและสายพันธุ์จึงเป็นวิธีการดีที่สุดและยังทำให้สุนัขมีสุขภาพที่สมบรูณ์ตามวัยอีกด้วย
การดูแลสัตว์เลี้ยงนอกจากจะดูแลรักษาความสะอาดให้สัตว์เลี้ยงแล้ว สิ่งที่ไม่ควรละเลยอีกอย่างนึงก็คือ การตัดเล็บ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เจ้าของมักส่ายหน้า เพราะส่วนใหณ่สัตว์เลี้ยงของท่านมักจะไม่ค่อยยอมให้ตัดได้ง่ายๆ และก็อาจจะมีสัตว์เลี้ยงอีกหลายๆ ตัวเหมือนกันที่เมื่อเห็นเจ้าของถือกรรไกรตัดเล็บเดินเข้ามาก็เริ่มส่งเสียงคำราม ทำพฤติกรรมดุร้าย และพร้อมที่จะกัดทำร้ายเจ้าของทันทีอีกเหมือนกัน บางตัวถึงขนาดวิ่งหนีเข้าซ่อนตัวในมุมมืด บางตัวแม้แต่จับที่ขาก็ยังไม่ยอม นั่นก็เพราะเค้าอาจมีประสบการณ์ชีวิตในแง่ลบที่ลืมไม่ลงกับความเจ็บปวดที่ได้จากการตัดเล็บ โดยเจ้าของ หรือร้านที่เป็นมือใหม่ทั้งหลายได้ฝากไว้ให้ พร้อมกับรอยเลือดซึมไหลออกมาหลังจากการตัดเล็บผ่านไปเพียงชั่วครู่ ซึ่งจริงๆแล้วการตัดเล็บให้สัตว์เลี้ยง ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ทั้งนี้เจ้าของต้องเริ่มต้นด้วยการรู้จักเรื่องของเล็บก่อน เพราะถ้าไม่รู้จักสรีระในส่วนนี้แล้ว ตัดอย่างไรก็เจ็บแน่ๆ ก่อนอื่นนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า เล็บของสัตว์เลี้ยงซึ่งงอกออกมานั้นไม่ใช่เป็นส่วนของเนื้อเล็บล้วนๆ ลองจับนิ้วเท้าของสัตว์มากางออกแล้วดูที่ส่วนของเล็บ ซึ่งเล็บจะมีสีขาวอย่างชัดเจน แต่ในส่วนโคนของเล็บมีเนื้อเยื่อสีแดงอมชมพูอยู่ที่ฐาน ซึ่งการตัดเล็บให้สัตว์เลี้ยงจึงต้องเล็งให้ห่างจากเนื้อเล็บสีชมพูอย่างน้อย ประมาณ 3 มิลลิเมตร ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าเราตัดไปถูกเนื้อเล็บสีชมพูเข้าก็จะทำให้สัตว์เจ็บปวดมาก และทำให้เลือดไหลออกมาอย่างน่ากลัว ส่วนการเลือกใช้กรรไกรตัดเล็บ ถือเป็นสำคัญมากเช่นกัน อยากแนะนำให้ใช้กรรไกรปากอ้าธรรมดาเพราะง่ายสะดวก ไม่ยุ่งยาก เทคนิคการตัดเล็บให้สัตว์เลี้ยง จริงๆแล้วไม่ได้มีเทคนิคที่ตายตัว แต่ต้องพยายามทำให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกผ่อนคลาย หาอะไรมาหลอกล่อ อาจจะเป็นขนม หรือของเล่นก็ได้ จะทำเราตัดเล็บให้สัตว์เลี้ยงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลักๆเลยต้องใจเย็นๆ และทำอย่างเบามือ ถ้าทำไม่ได้ให้หยุด และไปให้ร้านทำให้จะดีกว่า